Aztec Culture
ชาว Aztec จัดเป็นกลุ่มผู้อพยพกลุ่มใหญ่ที่อพยพมาจากทางตอนเหนือของอเมริกา เดินทางมาเรื่อยๆ จนมาถึงบริเวณที่ราบลุ่มใน Central Mexico เมื่อประมาณศริสต์ศักราชที่ 12-13 จึงได้หยุดการอพยพและตัดสินใจตั้งถิ่นฐาน ก่อร่างสร้างเมืองบนเกาะกลางทะเลสาบ Texcoco (ปัจจุบันอยู่ในเมือง Mexico City) โดยมีเมืองหลวงของอาณาจักรชื่อว่า Tenochtitlan และมีช่วงอายุของความรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมนับตั้งแต่ศริสต์ศักราชที่ 13 จนถึง 16 ครับ
เมื่อเอา Aztec ไปเปรียบกับ Maya ก็จะพบว่า Aztec เกิดที่หลัง Maya ถึงพันกว่าปีเลยทีเดียวครับ และถ้าพิจารณาอาณาเขตของอาณาจักร ท่านผู้อ่านพอจะจำได้มั้ยครับว่า Maya รุ่งเรืองที่บริเวณใด ถ้าจำไม่ได้ผมก็จะบอกอีกครั้งว่า Maya อยู่บริเวณ Yucatan Peninsula ครับ (แหลมที่ยื่นออกไปในอ่าวเม็กซิโกในแผนที่ที่ผมเอามาให้ดูข้างล่างครับ) แต่ Aztec นี่จะตั้งอยู่ทางตอนเหนือขึ้นไปอีก (บริเวณ Mexico City) เรียกง่ายๆคือ อยู่ชายแดนไกลๆของอาณาจักรมายาครับ
ภาพเมืองหลวง ของชาว Aztec
ชาว Aztec เป็นกลุ่มอารยชนที่ ฉลาด มากครับสามารถพลิกพื้นแผ่นดินที่ไม่มีใครเหลียวแล แผ่นดินที่ถูกเรียกว่าเป็น poor land ของชนกลุ่มอื่นๆ ให้กลายเป็นแผ่นดินทอง กลายเป็นแผ่นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ สามารถสร้างเมืองและทำเกษตรกรรม การเลี้ยงสัตว์ และการประมงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกเหนือจากความชาญฉลาดแล้ว..ชาว Aztec ดูเหมือนว่าจะโหดร้ายอยู่ซักหน่อยครับ เพราะ นิยมการบูชายันต์ โดยใช้มนุษย์เป็นเครื่องสังเวยต่อเทพเจ้า (Human Sacrifices) แม้ว่าชาวมายาและชาวอินคาจะกระทำบ้าง แต่ไม่ถือว่าเป็นกิจวัตรหรือแพร่หลายแบบชาว Aztec หลักฐานทางโบราณคดีและข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้บ่งชี้
กรณีการสังเวยครั้งใหญ่คือเมื่อตอนการเฉลิมฉลอง Great Pyramid of Tenochtitlan ในปี ค.ศ.1487 โดยชาว Aztect อ้างว่าพวกเขาได้สังเวยเชลยถึง 84,400 คน ในช่วงเวลาสี่วัน
(ในช่วงนั้นชาว Aztec ที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวงมีทั้งสิ้นประมาณ 80,000 ถึง 120,000 คนเท่านั้น) เรียกได้ว่าฆ่าเชลยที่จับมาได้เกือบเท่ากับจำนวนประชากรของตนเลยทีเดียว
รูปปีรามิดใจกลางเมือง ของชาว Aztec
วัฒนธรรมของชาว Aztec นี่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดอย่างมากครับ เพราะนิยมการบูชายันต์มนุษย์ให้แก่เทพเจ้าที่ชื่อว่า Huitzilpochti นอกจากจะใช้มนุษย์เป็นเครื่องบูชายันต์แล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ พริก ครับ คาดว่าคงเอามาเผาให้เกิดควันเพื่อการบูชายันต์ด้วยครับ
ด้วยวัฒนธรรมที่เน้นการบูชายันต์เป็นหลัก จึงเป็นสาเหตุให้ชาว Aztec เป็นศัตรูกับอาณาจักรข้างเคียงและมีการทำสงครามกันหลายครั้งเพื่อจับคนจากอาณาจักรอื่นๆมาเป็นเชลยเพื่อใช้ในการบูชายันต์ นอกจากจะทำสงครามเพื่อแย่งชิงเชลยแล้ว ชาว Aztec ยังต้องทำสงครามปกป้องอาณาเขตที่อุดมสมบูรณ์ของตนกับผู้รุกรานอยู่เสมอ
ชาว Aztec ทำสงครามขยายอาณาเขตอย่างกว้างขวาง โดยมีเมืองหลวงอยู่บริเวณเกาะกลางน้ำ ส่วนพื้นที่รอบๆ จะเป็นของชาวพื้นเมืองเผ่าต่างๆที่ Aztec ชนะสงครามและปรับให้เป็นเมืองประเทศราชไปซะ โดยที่เมืองประเทศราชเหล่านี้ต้องส่ง ส่วย ไปให้ชนชั้นปกครองที่เมืองหลวงโดยตลอดครับ
ชาว Aztec มีการแบ่งชนชั้นออกเป็นสองระดับ คือ
1. Commoners คือประชาชนทั่วๆไป
2. Nobility ซึ่งคือนักปกครอง นักบวช และนักรบ
ผมว่าการแบ่งชนชั้นของ Aztec นี่ดีครับ เพราะถึงแม้จะแบ่งชนชั้นแต่เค้าก็ให้โอกาสพวก commoners ขยับขึ้นมาเป็น nobility ได้ ครับ ถ้าแสดงให้เห็นถึงสามารถและฝีมือการรบ ซึ่งการเป็นนักรบนั้นจะแบ่งออกเป็นระดับอีกเช่นกันครับ คือเป็น Elite Eagle และ Jaguar Warrior ครับ
กลุ่ม nobility จะถูกสอนเรื่องการปกครองและพิธีกรรมทางความเชื่อต่างๆ ในขณะที่เด็กชายทุกคนในเมืองหลวงจะถูกสอนเรื่องศาสนา การค้าขาย ศิลปะ และการต่อสู้
ช่วงปี 1428-1521ขณะที่ชาวอินคาครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ ในอเมริกากลางก็ถูกชาว aztec ครอบครองเช่นกันถือเป็นยุคทองเลยก็ว่าได้ กินพื้นที่ เม็กซิโกปัจจุบัน ฮอนดูรัส และประเทศใกล้เคียง ชาว aztec มักถูกเรียกว่า mexica อันเป็นที่มาของชื่อเม็กซิโก ศูนย์กลางอำนาจอยู่ที่เมือง tenochtitlan ปัจจุบันคือกรุงเม็กซิโกซิตี้ แต่เดิมเมืองนี้สวยงามไม่ต่างจากเวนิสเพราะมีคลองมากมายหลายสายตัดเป็นระเบียบ และตัวเมืองสร้างอยู่บนเกาะกลางหนองนำขนาดใหญ่ จัดเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่มากในแถบอเมริกาในเวลานั้น จนพวกสเปนเข้ายึดครองต่อมาจึงได้ถมคูคลองและหนอง รวมทั้งปล้นสดมภ์ ทำลายเมืองทิ้งและสร้างเมืองใหม่บนซากเมืองเดิม ปัจจุบันบางครั้งเวลาตัดถนนหรือสร้างตึกก็มักพบโบราณวัตถุเสมอๆ
จักรวรรดิ Aztec ดูเหมือนจะยิ่งใหญ่กว้างขวางแต่กลับเปราะบางเพียงแต่ดำรงอยู่ได้ด้วยสายใยบางๆของการค้าขายและการแลกเปลี่ยนสินค้าเกษตรเท่านั้น
ซึ่งตรงกันข้ามกับจักรวรรดิมายาอย่างสิ้นเชิง เหตุผลหลักที่ทำให้จักรวรรดิอ่อนแอ เพราะชาว Aztec มีจุดประสงค์การขยายพื้นที่อาณาเขตเพื่อการล่าเชลยศึกเพื่อนำมาบูชายันต์และเรียกร้องเอาเครื่องบรรณาการจากหัวเมืองต่างๆเท่านั้น .
โดยนักปกครองเมืองหลวงจะปกครองหัวเมืองต่างๆแบบทิ้งๆขว้างๆ และไม่แสดงท่าทีที่จะบังคับหรือสั่งสอนให้ประชาชนในหัวเมืองเคารพและจงรักภักดีต่อกษัตริย์ในเมืองหลวง ดังนั้นในช่วงเวลาที่ชาวสเปนรุกรานอเมริกากลาง ชาวสเปนจึงสามารถโน้มน้าวจิตใจของหัวเมืองต่างๆในจักรวรรดิให้มาเป็นพันธมิตรเพื่อรบกับชาว Aztec ได้
ผมอธิบายความดุร้ายไปแล้วในเรื่องของการบูชายันต์มนุษย์ แต่ตอนนี้ผมจะมาอธิบายว่า ทำไมผมถึงบอกว่าชาว Aztec ฉลาดมากครับ ?
ก่อนจะเข้าเรื่อง ต้องทำความเข้าใจพื้นที่ Mesoamerica ให้ถ่องแท้ก่อนว่า ในช่วงสมัยก่อนนั้นแต่ละพื้นที่ก็ถูกครอบครองด้วยชนเผ่าต่างๆหลายร้อยเผ่า บ้างก็รวมตัวกันอย่างหนาแน่น เช่น มายา เป็นต้น บ้างก็ไม่รวมกัน แต่กระจัดกระจายกันครอบครองพื้นที่เป็นส่วนๆ อาจมีการติดต่อค้าขายหรือแลกเปลี่ยนสินค้ากันบ้างในบางคราว
กลุ่มชนชาว Aztec เป็นชนกลุ่มที่ไม่ถูกยอมรับจากชนเผ่าอื่นๆที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เพราะเรื่องค่านิยมในการบูชายันต์นั่นเอง ชนเผ่าต่างๆจึงได้พยายามกดดันให้ชาว Aztec ต้องเดินทางลงมาทางใต้เรื่อยๆ เพื่อหาที่อยู่เองโดยที่จะไม่ต้องติดต่อกับพวกเผ่าอื่นๆ
บรรพบุรุษของชาว Aztec เดินทางมาจนถึงบริเวณทะเลสาบ Texcoco ซึ่งเป็นบริเวณที่ชนเผ่าอื่นๆเห็นว่าเป็นดินแดนที่ไม่น่าครอบครอง แต่ชาว Aztec ซึ่งไม่อยากเดินทางต่อไปอีกแล้ว กลับตัดสินใจตั้งถิ่นฐานบริเวณเกาะกลางน้ำ และพยายามสร้างบ้านแปลงเมืองจนยิ่งใหญ่กลาย
ในสมัยนั้นชนเผ่าต่างๆพากันดูถูกชาว Aztec ว่าเป็นชนเผ่าที่ไม่เจริญ (least civilization) ดังนั้นชาว Aztec จึงพยายามปรับประยุกต์เอาความเชื่อเรื่องศาสนาของชนเผ่าต่างๆ
ซึ่งศาสนาหลักก็คือ Toltec เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในความเชื่อ ทั้งนี้เพื่อประกาศถึงความศิวิไลซ์ของตน
เวลาผ่านไปไม่นาน ภายหลังชาว Aztec ได้พัฒนาการตนตรีและศิลปะตลอดจนการกสิกรรมที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงสถาปัตยกรรมต่างๆ
จึงทำให้ชนเผ่าต่างๆหันมาเกรงในอำนาจและความยิ่งใหญ่ของ Aztec เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อรวมถึงการที่ชาว Aztec เก่งกาจทางด้านการทำสงครามแย่งชิงเชลยศึก และระบบค้าขายแลกเปลี่ยนรวมถึงระบบการติดต่อขนส่ง จึงทำให้ชาว Aztec สามารถขยายพื้นที่จนตั้งเป็นจักรวรรดิได้ในที่สุด
ผมเอามหาปีรามิดแห่งพระอาทิตย์มาให้ดูครับ ว่าในสภาพปัจจุบันเป็นอย่างไร
ชาว Aztec มีชื่อเสียงเรื่องการเกษตรกรรม เพราะคิดค้นระบบการทำเกษตรกรรมในทะเลสาบได้ด้วยตนเอง
โดยการสร้างสวนลอยน้ำขึ้นมาเพื่อทำการเพาะปลูกพืช เช่น ข้าวโพด ถั่ว พริก มะเขือเทศ อโวคาโด บางครั้งอาจใช้ในการปลูกดอกไม้ด้วย
สวนลอยน้ำนี้มีชื่อว่า Chinampas สร้างโดยการนำท่อนไม้มาปักลงบนพื้นที่ตื้นของทะเลสาบ ทำให้เป็นรั้วลักษณะสี่เหลียมผืนผ้า หลังจากนั้นแต่ละมุมของรั้วไม้นี้จะปลูกไม้ยืนต้น เพื่อให้รากไม้ซอนลงไปในดินและสร้างความแข็งแรงให้กับรั้วไม้นี้ หรืปักด้วยหมุดขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มความแข็งแรง หลังจากนั้นจะนำเสื่อที่สานจากต้นกกมาปูทับข้างบน (น่าจะใช้ท่อนไม้ปูก่อนเพื่อเป็นคานรองรับ) แล้วจึงนำโคลนที่ขุดได้รอบๆขึ้นมาแผ่ไว้บนเสื่อเพื่อใช้เป็นดินสำหรับการเพราะปลูก นอกจากจะคลุมเสื่อด้านบนแล้ว บางแห่งก็จะเอาเสื่อมาหุ้มที่รั้วไม้อีกทีเพื่อกันน้ำเข้า
ด้วยเทคนิคการทำเกษตรกรรมอย่างที่ผมบอกมา จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ Aztec ที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวงมีอาหารและพืชผลทางการเกษตรรับประทานตลอดปี นอกจากนั้นชาว Aztec ยังใช้เทคนิคเดียวกับการสร้างสวนลอยน้ำในการขยายเมืองออกไปอีกด้วยครับ จึงทำให้เกาะกลางน้ำเพิ่มพื้นที่ไปเรื่อยๆ
นอกจากความชาญฉลาดในเรื่องของการทำเกษตรกรรมแล้ว
เรื่องโหราศาสตร์ ก็ดูเหมือนจะเป็นอีกหนึ่งในความรู้ที่นักโบราณคดีต่างชื่นชมและยอมรับในความสามารถของชาว Aztec ครับ เพราะว่าด้วยองค์ความรู้ที่ตนมีเมื่อหลายพันปีก่อน ทำให้ชาวชาว ” Aztec สามารถคิดค้นปฏิทิน ” ขึ้นมาใช้เพื่อการทำพิธีต่างๆ
และปฏิทินนั้นได้รับการยอมรับจากนักโบราณคดีว่า ถูกต้องมากกว่าปฏิทินที่เราใช้กันอยู่เสียอีกครับ
อย่างไรก็ตามเมื่อมีเจริญสูงสุดก็ย่อมมีการเสื่อมสลาย จักรวรรดิ Aztec ล่มสลาย เพราะผ่ายแพ้ให้กับ การรุกรานของกองทัพจากสเปน โดยการนำของ Hernan Cortes
แม้ว่า Cortes จะมีกำลังเพียงแค่ 500 คน แต่ก็ได้พันธมิตรจากชนเผ่าอื่นๆที่อยู่ภายใต้การปกครองของชาว Aztec เข้าช่วยเหลือในการสู้รบ ในขณะที่ชาว Aztec ต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว ณ ฐานที่มั่นบนเกาะกลางน้ำของตน ด้วยกำลังรบของ Cortes บวกกับชนเผ่าต่างๆอีก รวมทั้งสิ้นถึงประมาณ 150,000 – 200,000 คนเลยทีเดียวครับ….อย่างนี้แล้วชาว Aztec แทบจะไม่มีทางชนะใดๆเลยครับ
ซ้ำร้ายชาวเมือง Aztec ยังประสบปัญหาการขาดแคลนอาหารและเป็นโรคฝีดาษ จึงทำให้กองกำลังอ่อนแอและผ่ายแพ้ในที่สุด ดังนั้นกองกำลังพันธมิตรชาวสเปนจึงครอบครอง Tenochtitlan ได้ในวันที่ 13 สิงหาคม คริสต์ศักราช 1521 ในช่วงที่มีการเสียเมืองให้กับข้าศึก…กวีชาว Aztec ได้เขียนบทกลอนไว้ว่า
“How can we save our homes, my people
The Aztecs are deserting the city
The city is in flames and all is darkness and destruction“
Weep my people
Know that with these disasters
We have lost the Mexacan nation
The water has turned bitter
Our food is bitter
These are the acts of the Giver of Life
ผู้หญิง aztec แต่งกายด้วยชุด ทูนิค คล้ายชาวอินคา แต่ยามปกติมักสวมเสื้อพื้นสีขาว ถ้ามีงานสำคัญก็จะแต่งกายสีสันสดใส มักนำขนนกมาตกแต่งร่างกาย
ส่วนผู้ชายมักนุ่งเตี่ยว ชาว aztec คลั่งไคล้ทองคำและบูชาในฐานะสิ่งแทนพระเจ้าไม่แพ้ชาวอินคา และทองคำก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ชาว aztec เสียเอกราชในที่สุด
Mask of Death and Rebirth
Aztec warriors themselves might willingly sacrifice themselves to the gods
DRESS AND CLOTHING
การแต่งกายของชาว Aztec
AZTEC CLOTHING FOR WOMEN / เสื้อผ้าของผู้หญิง
ลายผ้า
เสื้อผ้าของผู้หญิง
แพทเทิร์นเสื้อผ้า ของชาว AZTEC
ชาว Aztec มีการแต่งกายที่หลากหลายมากและสวยงาม ซึ่งก่อนหน้านี้มี ดีไซเนอร์ที่ผมนำมาลงโดยเขาจะใช้ คอนเซ็ปต์เสื้อผ้าของชาว Aztec ( future-ghost ) ผมจึงอยากจะนำมาเสนอบทความเกี่ยวกับชาว Aztec ครับซึ่งน่าสนใจมากครับ
อ้างอิง
http://en.wikipedia.org/wiki/Aztec_clothing
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=543675
http://history.missouristate.edu/jchuchiak/HST%20350–Theme%203–Daily_life_of_the_aztecs.htm
http://www.crystalinks.com/azteculture.html
http://news.spirithit.com/index/culture_art/more/aztec_art_exhibit_showcases_fascinating_civilization/
http://www.mnsu.edu/emuseum/cultural/mesoamerica/aztec.html
http://en.wikipedia.org/wiki/Aztec
http://www.geocities.com/architecture_aztec_america/america_aztec_history.html
http://library.thinkquest.org/16325/y-farm.html
http://encarta.msn.com/media_461543847_761593151_-1_1/Aztec_Chinampas.html
http://www.geocities.com/stefan_azteken/tenochtitlan/tenochtitlan.htm
http://www.praphansarn.com/herb/herb24.asp
http://www.chillies-down-under.com/chilli-history-origins-indians.html
http://en.wikipedia.org/wiki/Yucat%C3%A1n_peninsula
http://www.indians.org/welker/maya.html